จุดเริ่มต้นของแนวคิดการก่อตั้งสภาลมหายใจเชียงใหม่ มาจากกลุ่มประชาชนและเครือข่ายที่ทำงานขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศ ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน (กกร.) และภาคประชาชน ที่เห็นพ้องว่าจังหวัดเชียงใหม่จะต้องรวมพลังของประชาชนให้เป็นเอกภาพ เพื่อทำงานขับเคลื่อน ประสานงานและหนุนเสริมการทำงานของประชาชนทุกฝ่ายในการร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ ทั้งระยะสั้น การแก้ปัญหาในช่วงเผชิญเหตุการณ์วิกฤตเฉพาะหน้า ระยะกลางและระยะยาว โดยมุ่งไปสู่เป้าหมายเพื่อประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือมีอากาศหายใจที่สะอาดและปลอดภัยตลอดทั้งปี ภายใต้แนวคิด “เรามีลมหายใจเดียวกัน”
สภาลมหายใจเชียงใหม่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 มีลักษณะเป็นองค์กรเปิด สามารถขยายเครือข่ายความร่วมมือในการทำงานแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศแบบเปิดกว้าง มี 5 ทิศทางดำเนินงานคือ
สภาลมหายใจเป็นผู้ทำหน้าที่เชื่อมร้อยความร่วมมือในการทำงานขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศที่สำคัญ เป็นพื้นที่กลางหรือพื้นที่หน้าหมู่ที่รวบรวมประชาชนผู้มีจิตอาสาเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ อำนวยให้ทุกภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้นและเกิดการทำงานขับเคลื่อนไปพร้อมๆกันอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยในการประสานงานกับภาคประชาชนและภาคเอกชน เป็นตัวแทนของจังหวัดเชียงใหม่ในการรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์วิกฤตฝุ่นควันและไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและกิจกรรมกับประชาชนอย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับในการทำงานร่วมกับภาครัฐในระดับจังหวัด
การทำงานในรูปแบบสภาลมหายใจเป็นการสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการทำงานเพื่อแก้ปัญหา ศักยภาพของสภาลมหายใจในการทำงานเชื่อมประสานกับหน่วยงานรัฐที่มีความหลากหลายหน่วยงาน หลากหลายภารกิจ ยังดำเนินการได้ไม่เต็มศักยภาพเป็นข้อจำกัดทั้งกระบวนการของสภาเองและในส่วนของอาสาสมัคร คนทำงาน ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาศักยภาพการทำงานเชื่อมประสานกับหน่วยงานรัฐ เอกชน กลไกภายในสภาลมหายใจเชียงใหม่ที่ขาดการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมการทำงานขับเคลื่อนในพื้นที่นำร่องยังไม่สามารถยกระดับข้อเสนอทางนโยบายสาธารณะในการแก้ปัญหาในระดับชาติและการแก้ปัญหาฝุ่นควันข้ามแดนได้
โอกาสสถานการณ์ฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาในระดับประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีงานศึกษาและงานวิจัยของภาคีวิชาการเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศจำนวนมากซึ่งสามารถนำมาเป็นฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศที่มีการติดตั้งครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดมากที่สุดในประเทศไทย มีแอปพลิเคชันแจ้งเตือนค่าคุณภาพอากาศและบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า มีหน่วยงานภาครัฐและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่พร้อมทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่ มีวิธีทางกฎหมายที่แก้ปัญหาเรื่องกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่น การจัดการที่ดินในเขตป่า มีกระบวนการสมัชชาสุขภาพจังหวัดเชียงใหม่ที่สร้างเครือข่ายแก้ปัญหาด้านสุขภาพ มีเทคโนโลยีหน้ากากป้องกันฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ซึ่งเป็นต้นทุนของจังหวัดเชียงใหม่ที่เผชิญฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษทางอากาศมาเป็นระยะเวลานานกว่า 15ปี
สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ส่งผลให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสวมใส่หน้ากากอนามัยซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้ว ยังช่วยป้องกันฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศในภาวะวิกฤตได้เป็นอย่างดี
การป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศต้องเริ่มที่การเข้าใจข้อเท็จจริงของปัญหาอย่างถูกต้องและรอบด้าน ซึ่งเชื่อมโยงในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและงบประมาณ มิติของภาคประชาชน มิติทางเศรษฐกิจ มิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติของเมืองและการขยายตัวของที่อยู่อาศัย มิติด้านเทคโนโลยี มิติด้านพฤติกรรมการบริโภคและวิถีเกษตรกรรม มิติความสัมพันธ์ในอาเซียน และเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแต่มีความเชื่อมโยงและเป็นกลไกของปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศทั้งสิ้น ซึ่งปัจจุบันความเข้าใจและการเชื่อมโยงปัญหาและสาเหตุของฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศทั้งภาคประชาชน ภาควิชาการและภาครัฐยังคงแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ดังนั้นการมีข้อมูลที่ถูกต้อง รอบด้าน ตรงกัน และเข้าถึงได้ง่ายจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างความตระหนักรู้ของประชาชนและการกำหนดแนวนโยบายการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัดระดับภาคและระดับชาติ
ให้ความสำคัญกับการสร้างพลังมวลชนในการขับเคลื่อนประเด็นปัญหา(Social Movement)ภายใต้
ข้อมูลและข้อเท็จจริงของปัญหา เพื่อให้เกิดการตื่นรู้และแรงกระเพื่อมทางสังคม มุ่งเน้นประชาชนเป็นหลัก
ในการจัดการปัญหาฝุ่นควันมลพิษทางอากาศ โดยร่วมงานกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ภายใต้แผนงานตามเป้าประสงค์
เน้นกระบวนการทำงานขับเคลื่อนในส่วนของราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากข้อเสนอนโยบายสาธารณะที่เกิดจากกระบวนการการมีส่วนร่วม โดยแผนงานและโครงการจะมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานภาคี ภายใต้เงื่อนไขของผลประโยชน์ของประชาชนและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
Copyright © 2020 Chiang Mai Breath Council สภาลมหายใจเชียงใหม่ All Rights Reserved.